ดูหนัง dune การกลับมา ของหนังภาคต่อไซไฟ

ดูหนัง dune

ดูหนัง dune กลับมาอีกทีกับ มหากาพย์ภาพยนตร์ Sci-Fi ที่ปี สืบต่อตำนานการเสี่ยงภัยที่สร้างขึ้นมาจากนิยายมีชื่อของ Frank Herbert ดูแลโดย Denis Villeneuve บรรลุผลสำเร็จจาก Dune ภาค 1 ออกฉายทีแรกเมื่อปี 2021 แล้วก็ได้รับรางวัล Academy Award ถึง 6 รางวัล โดยการกลับมาคราวนี้เป็นการเดินเรื่องราวที่เข้มข้นขึ้นกว่าภาคที่แล้วใน Dune Part Two ขึ้นแท่นหนังฟอร์มยักษ์พร้อมเข้าฉายในระบบ IMAX เนื้อหานี้ ไทยเมืองออนไลน์นำรีวิวแล้วก็สาระน่าดึงดูดมาฝากกัน

  • ถ้าหากจะกล่าวถึงหนังในยุคนี้ที่ก็น่าจะมากมายไปด้วยแนวพล็อตซุปเปอร์วีรบุรุษทุนดกหรือหนังแนวเสี่ยงภัยยอดเยี่ยมๆและก็ที่ขาดไปมิได้อย่างหนังสยองขวัญไอเดียที่สุดจะยอดเยี่ยมกันหมดในความนึกคิดแรกๆที่คิดและก็มองเห็นอยู่บ่อยมากตา แต่ว่าหากเอ๋ยถึงหนังแนวไซไฟจ้ะๆแบบเต็มกำลังในยุคนี้ที่เพียงพอจะคิดได้ก็น่าจะมีเพียงแค่ Dune ผลงานของผู้กำกับ เดอนี วีลเนิฟว์ ผู้กำกับมากมายวิสัยทัศน์ที่มักขับตัวภาพยนตร์ของเขาให้แจ่มแจ้งในทางความเป็นภาพยนตร์แบบขาๆ

ด้วยเคล็ดวิธีงานภาพ มุมกล้องถ่ายรูป กระจ่างแจ้งเป็นลายเส้นมาตั้งแต่เรื่อง Blade Runner 2049 หรือ Arrival ท่ามกลางโรคระบาดแล้วก็สมัยหนังไซไฟที่มิได้ทำเงินครึ้มรวมทั้งกระแสแรงเท่ามหากาพย์ไซไฟเปิดโลกภาพยนตร์อย่าง Star Wars ก็กำเนิดปรากฎการณ์ในปี 2021 ดูหนัง dune ฟีเวอร์ขึ้นด้วยทุนสร้างที่สูงแล้วก็การเสี่ยงครึ้มตัวหนังยังสามารถปัดกวาดข้อวิจารณ์ดีเยี่ยมที่สุดรวมทั้งรายได้ผ่านจุดคุ้มทันจนกระทั่งกำเนิดเป็นกระแสในวันหลังข้างหลังหนังลาโรงแล้วก็แวดวงภาพยนตร์ก็กลับไปสู่เหตุธรรมดา

ข้างหลังวัววิดหยุดระบาดเป็นเสียงสรรเสริญจากชาวเน็ตที่ได้ได้โอกาสมองคราวหลังแล้วก็เสียดายที่พลาดไปจนกระทั่งการคอยสิ้นสุดลงการกลับมาของหนังภาคต่อที่เลื่อนจากสิ้นปี 2023 มาต้นปี 2024 ที่สุดท้ายพวกเราก็ได้ดูกันแล้วที่ถึงแม้ว่าจะเพิ่งจะเข้าโรงแม้กระนั้นผู้กำกับก็ค่อนจะรับรองว่าบทในส่วนภาคสามได้ทำงานจวนใกล้เสร็จแล้ก็เลยยิ่งเพิ่มความระทึกใจสำหรับการขยายจักรวาลที่ไซไฟนี้เพิ่มเท่าตัว

นักแสดงและผู้กำกับ

รีวิว ดูหนัง dune โคตรหนังไซไฟงานดี วิชวลเยี่ยม เล่นใหญ่ แล้วก็ไปไกลกว่าเดิม

เรื่องราวการเสี่ยงอันตรายของ “พอล อะเทความชอบใจส” (แสดงโดย ทิโมธี ชาลาเมต์) ที่อะเทรติส ที่จะต้องเดินทางออกจากบ้านเกิดถิ่นกำเนิด ท่ามกลางกับทางด้านการเมืองและก็การสู้รบสืบเสาะหาทรัพยากรในโลกสมัยอนาคต ดูหนัง dune โดยในภาคนี้พอลจำเป็นต้องพิสูจน์ตนเองเอาชนะความหวาดกลัวด้วยการร่วมกับ “เดอะเฟรเมน” ชนเผ่าพื้นบ้านที่มีความเข้าใจสำหรับเพื่อการเรียกหนอนทะเลทรายยักษ์ได้ เพื่อผ่านด่านทดลองใน “มองน” โดยมีเรื่องมีราวราวของชะตากรรมและก็คำทำนายที่ระบุกลุ่มผู้ถูกเลือก

ประสบการณ์ส่วนตัวของผมที่มีต่อ ‘Dune’ ในฉบับของผู้กำกับเดวิด ลินช์ (David Lynch) คงจะหนีไม่พ้นคำว่าเหวอแตกและก็ง่วง ! แม้ว่าจะเห็นด้วยว่าหนังฉบับปี 1984 ที่ประเทศไทยอุตส่าห์ตั้งชื่อว่า ‘สนามรบแรงวจักรวาล’ จะมีความทะยานอยากและก็งานโปรดักชันที่มองไม่ขี้ริ้วขี้เหร่เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการผลิตที่ยังไม่ก้าวหน้าเท่าเดี๋ยวนี้ จนกระทั่งส่วนตัวเองก็เชื่อไปแล้วว่านิคุณยายหัวข้อนี้ของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert) คงจะไม่ใช่สิ่งที่จะทำกันได้อย่างง่ายๆและก็น่าจะเป็นยาขมไม่น้อยสำหรับผู้ใดกันที่คิดจะถือมาสร้างเป็นภาพยนตร์ แม้กระนั้นและจากนั้นก็มีคนลองดีจนได้ และก็การตลาดก็ปั้นหน้าหนังซะเปลี่ยนเป็นไซไฟเสี่ยงอันตรายเกินหน้าเกินตาความเซน (Zen) ของนิยายไปหลายช่วงตัวแม้กระนั้นในเมื่อมีชื่อของ เดอนีส วิลล์เนิฟว์ (Denis Villeneuve) ผู้กำกับชาวแคนาดาที่ความสามารถไม่ธรรมดาถือมาทำหนังอาจยากที่จะยับยั้งใจไม่ให้ลองของกันอีกสักครั้ง

ใน Dune: Part Two ตัวหนังก็ยังคงได้ผู้กำกับท่านเดิมอย่าง เดนิส วิลล์เนิฟ ผู้กำกับมากมายความสามารถจาก Sicario (2015),Arrival (2016) ,Blade Runner 2049 (2017) รวมทั้ง Dune: Part One (2021) กลับมารับหน้าที่ควบคุม พร้อมกับดาราหนังชุดหลักอย่าง ทิโมธี ชาลาเมต์ สวมบทบาทเป็น พอล อะเทรติส, เซนเดย์อา รับบทบาทเป็น ชานี่ และก็ตามด้วย รีเบคก้า เฟอร์กูสัน สวมบทบาทเป็น เจสสิก้า, หน้าจอช โบรลิน (เกอร์นีย์ ฮัลเลค) และก็ คริสโตเฟอร์ วอลเกน รับบทบาทเป็นพระราชาธิราช, ฮาเวียร์ บาร์เดม และก็ เดฟ ค่อยว่ากล่าวสต้า แล้วก็สมทบด้วยดาราหนังชุดใหม่อย่าง ออสติน บัตเลอร์,ฟลอเรนซ์ พิว รวมทั้ง เลอา แซดู

dune ภาคสอง – มหากาพย์ความใหญ่โต ที่อีกทั้งต่างรอ

สืบต่อมหากาพย์ภาพยนตร์ไซไฟของการรบระดับจักรวาล พนัน สล็อต ออนไลน์ ที่เกิดเรื่องราวการเสี่ยงภัยครั้งใหม่ของ พอล อะเทความยินดีส กับเหล่า เฟรแมน ก่อนตัวของพอลนั้นจะก้าวผ่านอดีตกาลของตน ก่อนนำผู้เชื่อถือทั้งหลายแหล่ร่วมการสู้รบครั้งประวัติศาสตร์ การเดินทางในตำนานของ พอล อะเทความยินดีส ที่รับบทบาทโดย ทิโมธี ชาลาเมต์ ในเวลาที่เขารวมกลุ่มกับ ชานิ รับบทบาทโดย เซนเดยา แล้วก็ เหล่าเฟรเมนขณะที่อยู่บนทางที่การแก้เผ็ดต่อผู้สมคบที่ทำลายครอบครัวของเขา เมื่อจะต้องพบเจอกับช่องทางระหว่างความรักในชีวิตของเขากับเคราะห์กรรมของจักรวาลที่เขารู้จัก เขาเพียรพยายามที่จะคุ้มครองอนาคตอันชั่วร้ายที่มีเพียงแค่เขาแค่นั้นซึ่งสามารถคาดการณ์ได้

ภาพยนตร์ประเด็นนี้จะตามติดการเสี่ยงอันตรายที่จะแปลงเป็นตำนานของ พอล อะเทความยินดีส ที่เขาได้ร่วมกับ ชานี่ แล้วก็เหล่าเฟรแมน ขณะเดียวกันนั้นเขาก็อยู่บนทางที่การแก้เผ็ดทุกคนที่มีส่วนร่วมสำหรับเพื่อการทำลายครอบครัวของเขา พร้อมเจอหน้ากับหนทางระหว่างความรักในชีวิต กับโชคชะตาของจักรวาลทั้งสิ้น ขณะเดียวกันนั้นเขาก็ต้องหาทางคุ้มครองอนาคตอันเลวทรามที่มีเพียงเขาเพียงแค่นั้นที่แลเห็น

  • กล่าวถึงเรื่องราวที่ต่อจากภาคก่อนของมองน เมื่อ พอล แล้วก็ เฟรแมน เริ่มเดินทางปลุกระดมกำลังพลกลางทางเพื่อหวังยืนขึ้นประมือปลดแอ็คจากการเช็ดกเอารัดเอาเปรียบรวมทั้งแก้เผ็ดผู้ที่ทำกับเครือญาติ อะเทรติส อย่าง ฮาร์คอนเนน รวมทั้งเข้าต่อรองใส่ความเที่ยงธรรมกับจักรวรรดิชั้นสูงเพื่อจบเรื่องราวระหว่างดวงดาว

ความรู้สึกข้างหลังดูจบในความยาวแทบสามชั่วโมงเสมือนผู้กำกับรวมทั้งตัวหนังได้ลากผู้ชมทั้งยังโรงเข้าไปในดวงดาวที่ทะเลทรายได้สมจริงสมจังแล้วก็ดื่มดำบรรยากาศได้ชั้นเลิศมากมายๆจนกระทั่งเชื่อวางใจว่าโลกและก็วัฒนธรรมของพวกเขามีจริงทรงขลังทรงอำนาจ ในภาคนี้ยังคงขยายเรื่องวัฒนธรรมต่อยอดจากภาคแรกได้อย่างดิบดีแล้วก็มองเห็นมิติเยอะขึ้นเรื่อยๆกว่าเคย ทั้งยังชายฝั่งทรายของเฟรแมน แล้วก็ฝั่งบ้านเครือญาติ ฮาร์คอนเนน รวมทั้งฝั่งพระราชาธิราช มิได้เล่ามุมมองเดียวแบบคราวก่อนช่วยสนับสนุนเพิ่มมิติแต่ละผู้แสดงให้พวกเรารู้เรื่องหลากมุมเหเหม็นตุผลมุมมองจนกระทั่งแปลงเป็นหนังการบ้านการเมืองไซไฟเกรดเออีกหัวข้อที่น่าดึงดูดตั้งแต่กระทั่งจบได้อย่างพอใช้

ด้วยการแสดงของผู้แสดงมากมายชั้นหนึ่งของแวดวงฮอลลีวูดทั้งยังหน้าที่ใหม่แล้วก็เก่าที่ยังสามารถส่วมหน้าที่ก้าวหน้าตามสไตล์พวกเขาแต่ว่าม้ามืดเจิดรุ่งเรืองท่ามกลางดาราหนังมวลมากมายหลากความสามารถคงเป็น เซ็นดาย่า และก็ ฟลอเรนซ์ พิว ที่ต่างคนต่างเป็นตัวแปร ด้านเซ็นดาย่านักแสดงหลักมีหน้าที่มากขึ้นในภาคนี้ที่แสดงดีหน้าแจ่มชัดแล้วก็ชักชวนอินตามหนังได้อย่างยอดเยี่ยม ดูหนัง dune เหมือนกับเดียวกับ ฟลอเรนซ์ พิว ที่ถึงแม้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเครื่องปรับอากาศไทม์ไม่เท่าเซ็นดาย่าแต่ว่าก็เป็นตัวแปรสำคัญที่พอเพียงขึ้นจอกรับส่งปฏิบัติหน้าที่ของคุณเองก้าวหน้า และก็ดาราหนังคนอื่นที่ก็เปล่งรัศมีทุกคราวเมื่อกล้องถ่ายรูปได้จับพวกเขามีเวลาปรากฎบนหน้าจอ

จะไม่เคลิ้มตามขนาดนี้ถ้าเกิดไม่ได้มาทำงานภาพ แล้วก็ งานสร้าง ที่โคตรวิจิตรตระการตารวมทั้งน่าจะเป็นงานสร้างหนังเรื่องหนึ่งที่ขึ้นหิ้งในตอนยุคนี้อย่างยิ่งจริงๆ งานภาพเสมือนภาพวาดที่มีชีวิต น่าคลั่งไคล้ แล้วก็งามเพลินตาในทุกเฟรมที่กล้องถ่ายภาพสัมผัสอาทิเช่นเดียวงานสร้างที่งามเหมือนจริงกว่าครั้งก่อนเท่าตัวมากมายๆและก็ช่วยสนับสนุนเรื่องราวให้มองทรงอำนาจตามธีมเรื่องความเชื่อถือสำหรับเพื่อการปลุกระดมสำหรับเพื่อการทำศึกทำสงครามสุดแสนไซไฟได้อย่างพอดิบพอดีเหมาะเหม็ง แถมด้วยงานเสียงอีกทั้งดนตรีประกอบฉาก เสียงเอฟเฟคในเรื่องออกมาดูดี ติดหู รวมทั้งใช้งานควบคุมได้ดิบได้ดีมากมายๆกับระบบ IMAX ระบบที่ตัวหนังดีไซน์ถ่ายทำเพื่อต้องการให้ได้อรรถรสสุดกำลังมากมายสุดเมื่อได้ดูหนังประเด็นนี้

Dune Part 2_2

พอลก็ได้สานชมรมกับ “ชานี” (แสดงโดย เซนเดย์อา)

หญิงชาวเฟรเมนผู้รอช่วยเหลือเขาอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง โดยพอลได้ร่วมรบกับเฟรเมนสำหรับในการต่อสู้กับพวก “ฮาร์คอนแนน” ที่ก่อการทำศึกเสาะหาทรัพยากร กระทั่งกำเนิดเป็นการรบเต็มแบบระหว่างกรุ๊ปเฟรเมนและก็ฮาร์คอนแนน ดูหนัง dune แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันพอลก็ได้เจอความลับบางสิ่งบางอย่างของเชื้อสายที่ถูกปิดบังไว้

จำเป็นต้องเกริ่นก่อนว่าเรื่องราวในภาคนี้จะเดินเรื่องราวต่อจากในพาร์ทแรกในทันทีทันใด แม้เทียบให้อย่างเห็นได้ชัดอาจเป็นภาคแรกเป็นเซ็ตอัพส่วนประกอบต่างๆไม่ว่าจะเป็น ผู้แสดง, การขัดกัน, อารมณ์ เพื่อจะมาจัดเต็มในภาคนี้แบบไม่มีกั๊ก ซึ่งจะพูดว่าเลยว่าในตัวภาพยนตร์สามารถทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติเตียนอย่างแท้จริง ผลงานชิ้นยอดเยี่ยมของ เดอนีส์ วิลเนิฟว์ (ผู้กำกับ)

สามารถสะกดผู้ชมได้อย่างดียิ่ง มีความสมจริงสมจัง ตรงประเด็น ไม่ยื้ดเยื้อ แล้วก็ประสิทธิภาพที่ยกฐานะภาพยนตร์ได้อย่างเต็มปาก ฉากการต่อสู้ก็ทำออกมาได้ต้องใจ พร้อมใช้ประโยนชน์จากภาคแรกได้อย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากในที่สุดที่ทำให้ผมรู้สึกเสมือนอยู่ในอภิมหาการสู้รบจริงๆแต่ว่าที่ทำให้ผมรู้สึกจับใจเยอะที่สุดเป็น หัวข้อที่ต่างในเรื่อง อารมณ์ความรู้สึก ความเจ็บของผู้แสดง ความสลับซับซ้อนของคนเรา แล้วก็ การใช้ความเชื่อถือสำหรับการเคลื่อน

Dune Part 2_3

หนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์รายปี 2024 มาพร้อมความโหฬารยอดเยี่ยมกว่าเดิม สะท้อนใจความสำคัญความศรัทธาได้อย่างสุขุม

เป็นการกลับมาอีกทีของหนังฟอร์มยักษ์สุดยิ่งใหญ่รายปีนี้อย่าง Dune: Part Two ภาคต่อของหนังเรื่อง Dune (2021) ที่ยังคงควบคุมโดย Denis Villeneuve จาก Arrival (2016) และก็ Blade Runner 2049 (2017) ที่นับว่าสืบต่อจากเรื่องราวภาคแรกได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ มีความตระการตาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แอ็คชั่นเต็มดูด สนุกสนานยิ่งใหญ่ ทรงอำนาจ แม้กระนั้นช่วงเวลาเดียวกันในส่วนรายละเอียดและก็หัวข้อก็มีความลุ่มลึก สะท้อนถึงบริบทหลายมุม กล่าวถึงการขัดกัน มีความศาสนา ปรัชญาอยู่มากพอควร

เสริมกองทัพด้วยตัวบทที่ยังคงแบบเดิมสำหรับการเล่า ย่อยช้าๆไปอย่างสวยๆแบบภาคก่อนที่จะตอนนี้จะเป็นการเซ็ตติ้งฝั่งการยืนขึ้นขึ้นมาประมือของ อะเทรติส ที่เริ่มไล่เล่าอย่างสมบูรณ์เก็บทุกเม็ดอย่างถี่ถ้วนตราบจนสามารถนำส่วนประกอบการเบาๆนำเสนอช้าๆกริ้วเบิดระเบ้อพีคสุดปรอทได้โอเคในตอนผลสรุปด้วยฉากแอ็คชั่นสุดยอดเยี่ยมแบบหนังสงครามฟอร์มยักษ์ที่เคยได้เห็นมานักต่อนัก ดูหนัง dune ที่ใช้วัถเหม็นตุดิบเรื่องราวในโลกตนเองได้ครบและก็สมใจผู้ชมเจริญมากมายๆอย่างต้องเป็นก้าวหน้าแถมยังต่อยาอดสำหรับการขยายจักรวาลมองนก้าวหน้าอีกขึ้นด้วย

มีดีมากมายก็จะต้องมีเสียดายน้อยปกติด้วยตัวหนังที่นานแทบถึงสามชั่วโมงที่ใช้เวลาไปสำหรับเพื่อการปูเรื่องราว เล่าแหล่งที่มาอย่างเห็นได้ชัดพาผู้ชมอินแล้วก็เชื่อไปจนถึงจบหนัง หนังกลับใช้เวลาในนิดหน่อยยาวเกินจำเป็นในเล็กน้อย จริงอยู่ว่าความยาวของหนังจะช่วยเสริมให้เรื่องราวแจ้งชัดแล้วก็พอดิบพอดีที่สุดแม้กระนั้นใช่ว่าจะพอดิบพอดีกับคนอีกหลายคนที่บางทีอาจจะกำลังคาดหมายในภาคต่อจำเป็นต้องระเบิดตู้มต้าม เดินเรื่องฉับไวตามสไตล์ภาคต่อบางทีอาจจะจำเป็นต้องผิดหวังกันครามครัน

ยังคงถูกใจความกว้างใหญ่ของภาคนี้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ถ้าผู้ใดกันแน่ที่มองภาคที่แล้วไป แล้วกลัวว่าหนังจะมีความเนือยเสมือนภาคก่อนไหม ก็จะต้องพูดว่าภาคนี้ดำเนินเรื่องไว มีซีนแอ็คชั่นมาเสิร์ฟย้ำๆอย่างที่คนชอบดูหนังสายแอ็คชั่นคงจะชื่นชอบไม่น้อย ส่วนตัวยังคงประทับในในงานสร้าง งานภาพ แล้วก็งานสกอร์ที่เสริมเติมเต็มให้กันกระทั่งทำให้หนังออกมามองยอดเยี่ยม สมกับกระเป๋านหนังเอพิคที่มันเกี่ยวกับเรื่องราวที่ใหญ่มโหฬาร